Karn Tirasoontorn

June 14, 2021

[อ่านมาเล่า] Makoto Marketing การตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น #2

จาก [อ่านมาเล่า] Makoto Marketing การตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น #1 มาต่อบทที่ 6 กันเลย

ไม่อ้างว่า อุตสาหกรรมนี้ตายแล้ว
ในยุคที่ธุรกิจสามารถ disrupt ได้ตลอดเวลา การคงอยู่ของธุรกิจหนึ่งเริ่มเกิดความไม่มั่นคง ทำให้ต้องมองหาหนทางเพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปเป็นอย่างอื่น นั้นอาจเป็นทางออกก็จริงแต่อย่าลืมว่าธุรกิจของเราได้หายไป หากเราอยากรักษาธุรกิจเดิมของเราให้ยั่งยืนต่อไปได้ การนำเสนอคุณค่าใหม่จึงเป็นทางออกที่สมเหตุสมผล 

การสร้างคุณค่าใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญก็จริง แต่คุณค่านั้นต้องตอบโจทย์ลูกค้าด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นแค่การตอบสนองความต้องการของตัวเองเพียงอย่างเดียว

พัฒนาสินค้า "เพื่อลูกค้า" จริงๆ
หัวใจของการตลาด จะให้ใครตอบก็คงได้คำตอบเดียวกัน คือ ลูกค้า หลายๆ บริษัทมีการสร้างแบบสอบถามให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นกับสินค้าที่ออกไป สิ่งที่นักการตลาดได้วิเคราะห์ออกมา คือการเลือกแก้ไขปัญหาที่คิดว่าพอจะทำได้เท่านั้นโดยดูจากระยะเวลา และทรัพยากรที่ใช้ไป

ถ้าหัวใจคือลูกค้าจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากหรือง่าย การตั้งใจรับฟังปัญหาจากลูกค้า ค่อยๆ ทำตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ค่อยๆ แก้ปัญหาที่ลูกค้าทีละจุด จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าไม่น้อยเลยทีเดียว

ทำสินค้าที่ลูกค้า 1 คน ซื้อ 100 ครั้ง ดีกว่าสินค้าที่ลูกค้า 100 คน ซื้อแค่ครั้งเดียว
กลยุทธ์ในสมัยนี้ในการนำเสนอสินค้า ส่วนมากจะคิดว่าจะทำคลิปในรูปแบบใด เชิญ Influencer คนดังๆ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดวิว ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจที่ในช่วงแรกจะมีลูกค้าวิ่งเข้ามาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อ influencer ย้ายไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์อื่นยอดขายก็ลดลง นั้นเพราะลูกค้าไม่ได้ให้ความสนใจกับสินค้าจริงๆ แต่เป็นเพราะความชื่นชมในตัว influencer ต่างหาก

ดังนั้นสิ่งที่ช่วยสร้างความจงรักภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ของเราก็คือ การคิดถึงลูกค้าจริงๆ โดยรับฟังปัญหา ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกค้ามองไม่เห็น รวมไปถึงช่วยแก้ไขปัญหา และที่สำคัญที่ทุกคนมักจะลืมคือความสุขของลูกค้านั้นเอง

คิดสินค้าที่ทำให้สื่ออยากมาสัมภาษณ์
ถ้าอยากผลิตสินค้าที่อยากให้มีคนมาสัมภาษณ์หลายคนคงรีบไปเปิดตำราการตลาดว่าใช้เครื่องมืออะไร เขียนแผนการตลาดอย่างไรดีให้สินค้าเราโด่งดัง หรือไม่ก็พยายามผลิตสินค้าตามกระแสโลกที่ได้รับความสนใจในขณะนั้นๆ เช่นนี้แล้วก็อาจจะมีคนสนใจเข้ามาสัมภาษณ์เราจริงก็เป็นได้ แต่อย่าลืมว่าการใช้ตำราเล่มเดียวกัน คิดแบบเดียวกันก็ทำให้มีคู่แข่งไม่น้อย ซึ่งความสนใจก็ไม่ตกอยู่ที่เราเพียงคนเดียวที่สื่ออยากจะเข้ามาสัมภาษณ์

เพื่อที่จะสร้างความแตกต่างและทำให้สื่ออยากเข้ามาสัมภาษณ์คงจะต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นด้วยเรื่องของวิสัยทัศน์  และแนวคิดของแบรนด์ว่าตั้งใจจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ารูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นความแปลกแหวกแนว ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร แต่ที่สำคัญคือต้องเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า

การสร้างแบรนด์ที่แท้จริง
การสร้างแบรนด์ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอชื่อ เพ็จเกจ ฟ้อนต์ สี โลโก้ของสินค้า หรือการโปรโมทไปทางสื่อต่างๆ ให้ผู้คนเห็นปุ๊บจำได้ปั๊บ แต่เป็นการสร้างความเชื่อถือ ความไว้วางใจ ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของผู้ผลิตผ่านสินค้าไปยังลูกค้า และลูกค้าก็สามารถที่จะเข้าถึงสินค้าจนจดจำแบรนด์นั้นได้เป็นอย่างดี